MLC:
Mahidol Learning Center
มหาวิทยาลัยที่สร้างศูนย์การเรียนรู้ควบคู่ไปกับจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์
และหล่อหลอมผู้คนให้กลายเป็นชาวมหิดลผ่านสถาปัตยกรรมแห่งนี้ จากเป้าหมายทั้ง ๔อย่าง
๑.สถาปัตยกรรมแห่งความทรงจำ หล่อมหลอมให้นักศึกษาเป็นชาวมหิดล
๒. Sense of place
๓. Group learning
๔. Tropical Architecture
๑.สถาปัตยกรรมแห่งความทรงจำ หล่อมหลอมให้นักศึกษาเป็นชาวมหิดล
๒. Sense of place
๓. Group learning
๔. Tropical Architecture
อาคารนี้มีแนวแกนที่เป็นความสำคัญต่ออาคารอย่างมาก ๒
แกนด้วยกันคือ
๑.แกน meaning ซึ่งเป็นแนวแกนที่ให้ความสำคัญของความหมาย
ประวัติของมหิดล แนวแกนที่สามารถเห็นประติมากรรมที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของมหิดลคือ
รูปปั้นพระบิดา และ
รูปประติมากรรมดอกกันภัยซึ่งเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย เมื่อคนที่เดินผ่านไปมาบริเวณนี้ก็จะซึบซับสัญลักษณ์นี้ไปด้วย
๒.resident
& academic เป็นแกนสำคัญที่ทำให้พื้นที่นี้มีชีวิต
เพราะนักศึกษาจะต้องเดินผ่านทางนี้เพื่อไปยังตึกเรียน อีกทั้งยังมี service คอยบริการอยู่ด้วย
ทำให้พื้นที่ตรงนี้มีการใช้งานอยู่เสมอ
พื้นที่ทั้งหมดเอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
คน-ธรรมชาติ คน-คน คน-พื้นที่ภายนอก และ การเรียนรู้แบบร่วมกัน (Group
learning) คือ
ลานขนาดใหญ่ให้คนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน พื้นที่ที่นั่งอยู่ด้านนอกมีความสัมพันธ์กันในแนวนอน
ทั้งสองตึกสามารถมองเห็นถึงกันได้ ไม่มีพื้นหรือชายคาของอีกฝั่งมาปิด
มีความโปร่งเกิดขึ้นให้อากาศเข้าไปทำงานร่วมกับอาคาร
อาคารมี pocket space ที่เหมาะกับการทำงานเป็นกลุ่ม
สิ่งที่สนใจคือการที่
มีcourt หลายแห่ง แต่มีวิธีแบ่งกันออกอย่างไม่รบกวนกัน
โดยการให้ฟังก์ชั่นที่เอื้อให้เกิดการใช้งานที่มีเสียงดัง คือโรงอาหาร
ซึ่งหันเข้าหาลานใหญ่กลางแจ้ง ส่วนลานรูปปั้นก็จะอยู่ถัดออกไปแต่ให้ความรู้สึกที่ไม่อยากเข้าไปรบกวนคือ
บริเวณนั้นมีลักษณะเป็น Amphitheatre ลานที่ไม่มีปัจจัยที่เอื้อต่อการใช้งาน
มีลักษณะเป็น Court โล่ง
Court กิจกกรรม เป็นลานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
มีservice ที่ทำให้เกิดกิจกรรมเสียงอยู่บริเวณนี้
เหมาะสำหรับทำกิจกรรมที่มีเสียงดัง
Courtกิจกรรมภายในอาคาร ซึ่งให้ความสงบขึ้นมาจาก
Court กิจกกรรม เพราะมีการแบ่งพื้นที่ด้วยอาคารก่อนหนึ่งชั้น
ภายในมีลักษณะเป็นทางเดินมากกว่าจะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมที่ชัดเจนเหมือน Court นอก เพราะตรงกับแกนresident & academic และเนื่องจากเป็นศูนย์การเรียนรู้ทำให้ผู้ใช้งานมีการรับรู้ถึงสิ่งที่ควรปฎิบัติภายในอาคารด้วย
การที่ได้มาดูกรณีศึกษาที่นี่
ทำให้เห็นถึงความสำคัญในการให้น้ำหนักกับความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่
และคำนึงถึงบริบทให้มาก
เนื่องจากทางทีมออกแบบได้ศึกษาความสัมพันธ์ของพื้นที่ร่วมไปกับเป้าหมาย
ทำให้เกิดแนวแกนที่จะมีผลต่อการสร้างสถาปัตยกรรมก่อนไป การที่เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการออกแบบตั้งแต่แรกนั้น
ก็จะทำให้รามีแบบที่ชัดเจนตามไปด้วย แม้จะมีการพัฒนาแบบไปเรื่อยๆหรือ มีการออกแบบเพิ่มขึ้นมาอีก
ก็จะไม่หลุด
Concept ของงานที่ตั้งไว้เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นข้อตกลงร่วมกันแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น